กราโนล่าคืออะไร และดีต่อสุขภาพไหม?

กราโนล่า (Granola) เป็นอาหารธัญพืชอบกรอบที่ทำจากข้าวโอ๊ต ถั่ว และผลไม้อบแห้ง นิยมรับประทานเป็นอาหารเช้าหรือของว่าง เพราะอุดมไปด้วยไฟเบอร์ โปรตีน และไขมันดี

✅ ข้อดีของกราโนล่า

• มีไฟเบอร์สูง ช่วยให้รู้สึกอิ่มนาน
• อุดมด้วยโปรตีนและไขมันดีจากถั่วและเมล็ดพืช
• มีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น เช่น ธาตุเหล็ก วิตามินบี

❌ ข้อควรระวัง

• บางยี่ห้อมีน้ำตาลสูง ควรอ่านฉลากก่อนเลือกซื้อ
• อาจมีแคลอรีสูง ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม

กราโนล่า 1 ถ้วย กี่แคล?

โดยทั่วไป กราโนล่า 1 ถ้วย (ประมาณ 50 กรัม) มีพลังงานเฉลี่ย 200-250 แคลอรี ขึ้นอยู่กับส่วนผสม บางยี่ห้อที่มีน้ำผึ้งหรือช็อกโกแลตอาจให้พลังงานสูงกว่านี้

5 อันดับกราโนล่ายอดนิยม แนะนำยี่ห้อไหนดี

1. Diamond Grains (ไดมอนด์เกรน) – กราโนล่ายอดฮิต

✅ มีหลายสูตร เช่น Sugar-Free, High Protein, Keto

✅ ใช้ธัญพืชเต็มเมล็ดและผลไม้แท้

✅ หาซื้อง่ายใน 7-11

2. Kellogg’s Granola (เคลล็อกส์ กราโนล่า)

✅ ทำจากข้าวโอ๊ตคุณภาพสูง

✅ มีรสชาติให้เลือก เช่น น้ำผึ้ง และผลไม้แห้ง

✅ แบรนด์ดังระดับโลก

3. Granovibes – กราโนล่าเพื่อสุขภาพ

✅ สูตรน้ำตาลต่ำและไม่มีสารกันเสีย

✅ อุดมไปด้วยโปรตีนจากถั่วหลายชนิด

✅ เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพ

4. DailyMe Granola (กราโนล่า เดลี่มี)

✅ กราโนล่าไทยแท้ ใช้วัตถุดิบธรรมชาติ

✅ สูตร Low Sugar และ High Protein

✅ รสชาติดีและมีหลายแบบให้เลือก

5. Nestle Fitness Granola Breakfast Cereals Oat and Honey

✅ กราโนล่าจากข้าวโอ๊ตเต็มเมล็ดอบกรอบ

✅ เคลือบด้วยน้ำผึ้ง กลิ่นหอมน่ากิน

✅ กรอบอร่อย เหมาะกับคนที่ต้องการพลังงาน เช่น ออกกำลังกาย

เลือกกราโนล่าแบบไหนดี?

1. เลือกสูตรที่มีน้ำตาลต่ำ – ไม่ควรเกิน 5 กรัมต่อหน่วยบริโภค
2. มีไฟเบอร์สูง – อย่างน้อย 3-5 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค
3. ไม่มีสารปรุงแต่งมากเกินไป – หลีกเลี่ยงสารกันเสียและสีสังเคราะห์
4. เลือกสูตรที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ – เช่น สูตรโปรตีนสูง สูตรคีโต หรือออร์แกนิก

สรุป

กราโนล่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่ให้พลังงานดีและอุดมไปด้วยไฟเบอร์ ควรเลือกยี่ห้อที่มีน้ำตาลต่ำและใช้วัตถุดิบธรรมชาติ หากต้องการควบคุมน้ำหนัก แนะนำสูตรที่ไม่มีน้ำตาลหรือไขมันต่ำ เช่น Diamond Grains, Granovibes, หรือ BNature Granola

Designed by Freepik