10 แอพฟังเพลงยอดนิยม พร้อมฟีเจอร์ปิดหน้าจอ ฟรีและเสียงดี

เวลาอัปเดตล่าสุด:2025-04-21

การฟังเพลงเป็นกิจกรรมที่ช่วยสร้างความสุขและบรรยากาศที่ดีในทุกวัน โดยเฉพาะเมื่อมีแอพที่สามารถฟังเพลงได้แม้ปิดหน้าจอ โทรศัพท์คุณก็จะสามารถใช้งานได้สะดวกขึ้นโดยไม่สิ้นเปลืองพลังงานแบตเตอรี่ วันนี้เราขอแนะนำ 10 แอพฟังเพลงปิดหน้าจอฟรี และยังมีฟีเจอร์เสียงที่ยอดเยี่ยมเพื่อให้คุณเลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสม พร้อมคำแนะนำการใช้งานที่น่าสนใจ



1. YouTube Music



YouTube Music - 維基百科,自由的百科全書




จุดเด่น:

  • ให้บริการทั้งเพลงและวิดีโอเพลงในแพลตฟอร์มเดียว มีเพลงให้เลือกมากมายจากทั่วโลก และหากสมัครบริการ YouTube Premium จะสามารถปิดหน้าจอได้และไม่มีโฆษณามาคั่น

เหมาะสำหรับ:

  • ผู้ที่ชื่นชอบฟังเพลงและดูมิวสิกวิดีโอในที่เดียว

ราคา:

  • ฟรี (มีโฆษณา) หรือสมัคร Premium เดือนละประมาณ 159 บาท


2. Spotify



Spotify - 音樂與Podcast - Google Play 應用程式



จุดเด่น:

  • แอพฟังเพลงยอดนิยมระดับโลกที่ให้เสียงคุณภาพสูง มีเพลย์ลิสต์หลากหลาย และสามารถปิดหน้าจอได้

เหมาะสำหรับ:

  • คนที่มองหาแอพฟังเพลงที่สร้างเพลย์ลิสต์ได้ง่ายและแนะนำเพลงใหม่ที่ตรงใจ

ราคา:

  • ฟรี (มีโฆษณา) หรือ Premium เดือนละประมาณ 129 บาท


3. Apple Music



File:Apple Music logo.svg - 維基百科,自由嘅百科全書



จุดเด่น:

  • เสียงคุณภาพสูง พร้อมฟีเจอร์ Lossless Audio และ Dolby Atmos มีคลังเพลงมากกว่า 90 ล้านเพลง

เหมาะสำหรับ:

  • ผู้ใช้ iPhone ที่ต้องการประสบการณ์เสียงระดับพรีเมียม

ราคา:

  • ทดลองใช้งานฟรี 1 เดือน หลังจากนั้นเริ่มต้นที่ 129 บาทต่อเดือน


4. Joox Music


File:JOOX font logo.svg - Wikimedia Commons


จุดเด่น:

  • แอพฟังเพลงที่มาพร้อมกับฟีเจอร์คาราโอเกะ มีเพลงไทยและเพลงสากลให้เลือกมากมาย

เหมาะสำหรับ:

  • คนที่ชอบร้องคาราโอเกะและฟังเพลงไทย

ราคา:

  • ฟรี (มีโฆษณา) หรือ VIP เริ่มต้นเดือนละ 139 บาท


5. TIDAL


File:Tidal (service) logo.svg - Wikimedia Commons



จุดเด่น:

  • มุ่งเน้นคุณภาพเสียงระดับ Hi-Fi สำหรับผู้ที่รักการฟังเพลงแบบละเอียด

เหมาะสำหรับ:

  • นักฟังเพลงที่ต้องการเสียงคมชัดระดับสตูดิโอ

ราคา:

  • ทดลองใช้งานฟรี 30 วัน หลังจากนั้นเริ่มต้นที่ 199 บาทต่อเดือน


6. Amazon Music


Brand Guidelines - Amazon Music for Artists


จุดเด่น:

  • มีเพลงให้เลือกหลายล้านเพลง พร้อมฟีเจอร์ปิดหน้าจอและดาวน์โหลดเพลงฟังแบบออฟไลน์

เหมาะสำหรับ:

  • ผู้ที่ใช้งาน Amazon Prime บ่อย

ราคา:

  • ฟรีสำหรับสมาชิก Amazon Prime


7. SoundCloud


SoundCloud Logo, symbol, meaning, history, PNG, brand

จุดเด่น:

  • แหล่งรวมเพลงอิสระและศิลปินหน้าใหม่ พร้อมระบบที่ช่วยค้นหาเพลงที่ตรงใจ

เหมาะสำหรับ:

  • คนที่ชื่นชอบการค้นหาเพลงใหม่ ๆ จากศิลปินหน้าใหม่

ราคา:

  • ฟรี (มีโฆษณา) หรือ Go+ เดือนละประมาณ 199 บาท


8. Deezer



File:Deezer logo, 2023.svg - Wikimedia Commons



จุดเด่น:

  • แอพฟังเพลงที่มีฟีเจอร์ Flow ช่วยแนะนำเพลงตามความชอบของผู้ใช้งาน

เหมาะสำหรับ:

  • คนที่ชื่นชอบการค้นพบเพลงใหม่

ราคา:

  • ฟรี (มีโฆษณา) หรือ Premium เริ่มต้นเดือนละ 129 บาท


9. KKBOX


KKBOX|隨時聽音樂、Podcast,享受聲音、找到共鳴! - Google Play 應用程式




จุดเด่น:

  • เน้นเพลงในเอเชีย ทั้งไทย จีน เกาหลี และญี่ปุ่น พร้อมฟีเจอร์ดาวน์โหลดเพลง

เหมาะสำหรับ:

  • ผู้ที่ชื่นชอบเพลงเอเชียและเพลงฮิตจากหลายประเทศ

ราคา:

  • ฟรี (มีโฆษณา) หรือ Premium เดือนละ 119 บาท


10. bilibili



File:Bilibili logo.svg - Wikipedia




จุดเด่น:

  • แอพดูวิดีโอที่มีเพลงและคอนเทนต์เกี่ยวกับอนิเมะ พร้อมฟังเพลงปิดหน้าจอได้ในบางคอนเทนต์

เหมาะสำหรับ:

  • คนที่ชื่นชอบฟังเพลงและดูวิดีโอเกี่ยวกับอนิเมะในที่เดียว

ราคา:

  • ฟรี (มีโฆษณา) หรือ Premium เดือนละประมาณ 150 บาท


เคล็ดลับการเลือกแอพฟังเพลง


  1. ตรวจสอบคลังเพลง: เลือกแอพที่มีเพลงตรงตามความชอบ
  2. ฟีเจอร์ปิดหน้าจอ: หากต้องการประหยัดแบตเตอรี่ เลือกแอพที่รองรับฟีเจอร์นี้
  3. ไม่มีโฆษณา: หากไม่ชอบโฆษณา ลองพิจารณาแบบเสียเงินรายเดือน
  4. คุณภาพเสียง: ตรวจสอบว่าแอพมีตัวเลือกเสียง Hi-Fi หรือ Lossless หรือไม่


สรุป


แอพฟังเพลงในปัจจุบันมีให้เลือกมากมาย ทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงิน การเลือกแอพที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการส่วนบุคคล เช่น คุณภาพเสียง ฟีเจอร์ปิดหน้าจอ หรือการไม่มีโฆษณา หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณค้นพบ แอพฟังเพลงเสียงดีที่สุด ที่ตรงใจคุณ



Designed by Freepik



จำเนื้อหาบทความไม่ได้ใช่ไหม กดปุ่มด้านล่างเลยSave this article, we are always here waiting for you to come back!

มีคนกำลังอ่านอยู่