10 อันดับที่หนีบผมยี่ห้อไหนดี ปี 2025 พร้อมคุณสมบัติเด่น

เวลาอัปเดตล่าสุด:2025-06-22

ในปัจจุบัน ที่หนีบผม หรือ เครื่องหนีบผม เป็นอุปกรณ์เสริมความงามที่สาว ๆ หลายคนเลือกใช้ เพื่อให้ได้ทรงผมที่เรียบตรง ดูเงางาม หรือแม้กระทั่งการ ม้วนผม เพื่อสร้างลอนที่ดูสวยงามเป็นธรรมชาติ การเลือก ที่หนีบผมยี่ห้อไหนดี ให้เหมาะสมกับลักษณะเส้นผมและความต้องการจึงเป็นสิ่งสำคัญ บทความนี้จะมาแนะนำ 10 อันดับที่หนีบผมยอดนิยม พร้อมจุดเด่นที่น่าสนใจ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น



1. Dyson Corrale Hair Straightener



จุดเด่น:

  • เทคโนโลยี Flexing Plate ช่วยลดความเสียหายของเส้นผม
  • ใช้งานได้แบบไร้สาย เพิ่มความสะดวกสบาย
  • มีระบบควบคุมความร้อนอัจฉริยะ ป้องกันผมเสีย

เหมาะสำหรับ:

  • ผู้ที่มีเส้นผมอ่อนแอหรือแตกปลายง่าย
  • ต้องการลงทุนกับเครื่องหนีบผมระดับพรีเมียม

คำอธิบายเพิ่มเติม: Dyson Corrale ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ใช้แผ่นหนีบแบบโค้งงอได้ ช่วยให้การหนีบผมทำได้อย่างอ่อนโยน เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการผมสวยโดยไม่ทำลายสุขภาพเส้นผม



2. Lesasha Straight & Curl Glamour 2 in 1



จุดเด่น:

  • รองรับการ ม้วนผม และหนีบตรงในเครื่องเดียว
  • แผ่นหนีบเคลือบเซรามิก ลดไฟฟ้าสถิต
  • มีตัวปรับระดับความร้อนสูงสุดถึง 230 °C

เหมาะสำหรับ:

  • ผู้ที่ต้องการเครื่องที่ใช้งานได้หลากหลาย
  • สาว ๆ ที่เดินทางบ่อย

คำอธิบายเพิ่มเติม: ที่หนีบผม Lesasha รุ่นนี้เหมาะสำหรับทั้งลุคผมตรงและลอน โดยไม่ต้องพกอุปกรณ์หลายชิ้นให้ยุ่งยาก จึงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว



3. Remington S9600 Silk Straightener



จุดเด่น:

  • แผ่นหนีบเคลือบเซรามิกชนิดพิเศษ ให้ผมเรียบลื่น
  • ความร้อนสูงสุด 240 °C ช่วยให้หนีบได้เร็วขึ้น
  • มีระบบ Turbo Boost เพิ่มความร้อนทันที

เหมาะสำหรับ:

  • ผู้ที่มีผมหนาหรือชี้ฟู
  • ต้องการผลลัพธ์รวดเร็วในเวลาอันสั้น

คำอธิบายเพิ่มเติม: Remington ถือเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยให้การหนีบผมเป็นเรื่องง่าย และยังถนอมเส้นผมให้นุ่มลื่น



4. Philips Essential Care Hair Straightener (HP8316)





จุดเด่น:

  • แผ่นหนีบเคลือบเซรามิกช่วยลดความเสียหายจากความร้อน
  • ปรับอุณหภูมิได้สูงสุด 210°C
  • ระบบทำความร้อนรวดเร็วภายใน 60 วินาที
  • ดีไซน์น้ำหนักเบาและจับถนัดมือ

เหมาะสำหรับ:

  • ผู้ที่ต้องการเครื่องหนีบผมราคาประหยัดและใช้งานง่าย
  • คนที่ต้องการเครื่องที่ทำความร้อนได้รวดเร็วและไม่ทำลายเส้นผม

คำอธิบายเพิ่มเติม: Philips Essential Care รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องหนีบผมที่ใช้งานง่ายและไม่ทำลายเส้นผม ด้วยแผ่นหนีบเซรามิกที่ช่วยกระจายความร้อนอย่างสม่ำเสมอและลดความเสียหายจากความร้อน เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและราคาที่ไม่สูงมาก.



5. Super V Inter Ceramic Hair Straightener




จุดเด่น:

  • แผ่นหนีบทำจากวัสดุเซรามิกกระจายความร้อนอย่างสม่ำเสมอ
  • ปรับความร้อนได้หลายระดับ
  • น้ำหนักเบา พกพาสะดวก

เหมาะสำหรับ:

  • ผู้ที่ต้องการ ที่หนีบผม Super V ที่ใช้งานง่าย
  • เหมาะสำหรับทุกสภาพเส้นผม

คำอธิบายเพิ่มเติม: ด้วยการออกแบบที่เรียบง่ายและใช้งานสะดวก ที่หนีบผม Super V รุ่นนี้เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน



6. Philips Prestige Pro Hair Straightener




จุดเด่น:

  • แผ่นหนีบเคลือบทัวร์มาลีนป้องกันผมเสีย
  • มีระบบ Ionic Care ลดปัญหาไฟฟ้าสถิต
  • ร้อนเร็วภายใน 10 วินาที

เหมาะสำหรับ:

  • ผู้ที่ต้องการเครื่องหนีบผมที่ช่วยลดผมชี้ฟู
  • คนที่มีเวลาแต่งตัวจำกัดในตอนเช้า

คำอธิบายเพิ่มเติม: Philips รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพผมพร้อมกับความรวดเร็ว ใช้งานง่าย



7. Panasonic Nanoe Hair Straightener


จุดเด่น:

  • เทคโนโลยี Nanoe เพิ่มความชุ่มชื้นให้เส้นผม
  • แผ่นหนีบโค้งมนเหมาะสำหรับการม้วนปลายผม
  • ปรับอุณหภูมิได้ 5 ระดับ

เหมาะสำหรับ:

  • ผู้ที่ต้องการดูแลผมระหว่างการหนีบ
  • คนที่ต้องการ เครื่องหนีบผม ที่ช่วยให้ผมไม่แห้งกรอบ

คำอธิบายเพิ่มเติม: เทคโนโลยี Nanoe ช่วยล็อกความชุ่มชื้นให้ผมดูสุขภาพดี แม้จะใช้งานเป็นประจำ



8. Babyliss Pro Nano Titanium Straightener






จุดเด่น:

  • แผ่นหนีบ Nano Titanium ให้ความร้อนอย่างรวดเร็ว
  • มีเทคโนโลยี Ionic ลดการเกิดผมชี้ฟู
  • น้ำหนักเบา ทนทาน

เหมาะสำหรับ:

  • ผู้ที่ต้องการลุคผมตรงเรียบลื่นอย่างมืออาชีพ
  • ช่างทำผมหรือผู้ใช้งานระดับมืออาชีพ

คำอธิบายเพิ่มเติม: Babyliss Pro เป็นเครื่องหนีบผมที่เหมาะสำหรับการใช้งานหนักและยาวนาน ให้ผลลัพธ์เสมือนมืออาชีพทำให้



9. GHD Platinum+ Hair Straightener


จุดเด่น:

  • Ultra-Zone Technology ควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ
  • ใช้งานได้แบบ All-in-One ทั้งหนีบตรงและม้วนลอน
  • ตัวเครื่องทนทานสูง

เหมาะสำหรับ:

  • ผู้ที่ต้องการ เครื่องหนีบผม คุณภาพสูง
  • ผู้ใช้งานที่ต้องการทรงผมที่ดูดีในเวลาอันสั้น

คำอธิบายเพิ่มเติม: GHD Platinum+ เป็นตัวเลือกยอดนิยมในวงการแฟชั่นและบิวตี้ระดับโลก ช่วยให้คุณได้ลุคที่สวยเป๊ะทุกวัน



10. Xiaomi Yueli Hair Straightener



จุดเด่น:

  • ดีไซน์ขนาดเล็ก พกพาง่าย
  • ร้อนเร็วใน 30 วินาที
  • ราคาเป็นมิตรกับงบประมาณ

เหมาะสำหรับ:

  • นักเดินทางหรือผู้ที่ต้องการเครื่องเล็กกระทัดรัด
  • คนที่ต้องการ ที่หนีบผม ใช้งานในชีวิตประจำวัน

คำอธิบายเพิ่มเติม: Xiaomi Yueli เป็นเครื่องหนีบผมที่ครบครันทั้งฟังก์ชัน



สรุป


การเลือกที่หนีบผมที่ดีที่สุดในปี 2025 ขึ้นอยู่กับความต้องการและลักษณะเส้นผมของแต่ละคน โดยแต่ละยี่ห้อที่แนะนำมีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกัน ตั้งแต่รุ่นพรีเมียมอย่าง Dyson Corrale ที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่ลดความเสียหายของเส้นผม ไปจนถึง Xiaomi Yueli ที่มีขนาดเล็ก พกพาง่ายในราคาประหยัด นอกจากนี้ยังมีรุ่นที่รองรับการใช้งานหลายฟังก์ชัน เช่น Lesasha Straight & Curl หรือ CKL 2 in 1 ที่ใช้งานได้ทั้งหนีบและม้วนผม เหมาะสำหรับคนที่ต้องการอุปกรณ์เสริมความงามที่ใช้งานได้หลากหลาย

ในการเลือกซื้อ ควรพิจารณาถึงความสะดวกสบาย, การดูแลสุขภาพเส้นผม, และงบประมาณที่มี ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกเครื่องหนีบผมที่ตรงตามความต้องการได้อย่างดีที่สุด



Designed by Freepik


จำเนื้อหาบทความไม่ได้ใช่ไหม กดปุ่มด้านล่างเลยSave this article, we are always here waiting for you to come back!