การเลือก รถเข็นเด็ก ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ เพราะนอกจากช่วยอำนวยความสะดวกในการพาลูกน้อยไปไหนมาไหนแล้ว ยังช่วยสร้างความปลอดภัยและความสบายให้กับลูกน้อยอีกด้วย ในบทความนี้ เราได้รวบรวม รถเข็นเด็ก รุ่นยอดนิยม 10 รุ่น พร้อมคำแนะนำในการเลือกซื้อ เพื่อช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

รถเข็นเด็ก คืออะไร?

รถเข็นเด็ก คืออุปกรณ์สำหรับอำนวยความสะดวกในการพาลูกน้อยเดินทาง โดยมีการออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็กแรกเกิด เด็กวัยหัดเดิน หรือเด็กโต ซึ่งรถเข็นเด็กจะมีฟังก์ชันที่แตกต่างกันไป เช่น รถเข็นเด็กพับได้ รถเข็นเด็กน้ำหนักเบา หรือรถเข็นเด็กที่มีระบบความปลอดภัยสูง

วิธีเลือกซื้อรถเข็นเด็ก

1. เลือกตามอายุและน้ำหนักของเด็ก

• เด็กแรกเกิด: ควรเลือก รถเข็นเด็กที่ปรับเอนได้ เพื่อรองรับการนอนของเด็ก
• เด็กโต: ควรเลือก รถเข็นเด็กน้ำหนักเบา เพื่อความสะดวกในการพกพา

2. ฟังก์ชันการใช้งาน

• รถเข็นเด็กพับได้ เหมาะสำหรับครอบครัวที่เดินทางบ่อย
• รถเข็นเด็กที่มีที่กั้นและระบบล็อกล้อ เพื่อความปลอดภัย

3. วัสดุและความแข็งแรง

• เลือกวัสดุที่ทนทาน เช่น โครงสร้างอะลูมิเนียมหรือเหล็ก
• เบาะรองนั่งควรทำจากวัสดุที่ระบายอากาศได้ดี

10 อันดับรถเข็นเด็กยอดนิยมในปี 2025

1. Aprica Magical Air Plus

จุดเด่น:

• น้ำหนักเบาเพียง 3.5 กิโลกรัม
• รองรับการใช้งานตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 3 ปี
• พับเก็บง่ายและสะดวกต่อการพกพา

เหมาะสำหรับ:

• ครอบครัวที่ต้องการ รถเข็นเด็กพับได้ และพกพาสะดวก

ราคา: ประมาณ 8,500 บาท

2. Combi Mechacal Handy Auto 4 Cas

จุดเด่น:

• ระบบล็อกล้ออัตโนมัติ เพิ่มความปลอดภัย
• เบาะรองนั่งระบายอากาศได้ดี
• สามารถปรับเอนเบาะได้ถึง 170 องศา

เหมาะสำหรับ:

• เด็กแรกเกิดถึง 3 ปี

ราคา: ประมาณ 10,900 บาท

3. Pigeon Compact Stroller

จุดเด่น:

• น้ำหนักเบาเพียง 4 กิโลกรัม
• โครงสร้างแข็งแรง ทนทาน
• พับเก็บง่ายด้วยมือเดียว

เหมาะสำหรับ:

• คุณแม่ที่เดินทางบ่อยและต้องการ รถเข็นเด็กพับได้

ราคา: ประมาณ 5,500 บาท

4. Chicco Bravo Trio Travel System

จุดเด่น:

• ระบบ Travel System ที่สามารถใช้ร่วมกับคาร์ซีทได้
• โครงสร้างแข็งแรง รองรับน้ำหนักได้ถึง 25 กิโลกรัม
• ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานได้หลากหลาย

เหมาะสำหรับ:

• เด็กแรกเกิดถึง 5 ปี

ราคา: ประมาณ 18,000 บาท

5. Babyzen YOYO2

จุดเด่น:

• ดีไซน์ทันสมัย พับเก็บง่าย
• น้ำหนักเบาเพียง 6.2 กิโลกรัม
• เหมาะสำหรับการเดินทางด้วยเครื่องบิน

เหมาะสำหรับ:

• ครอบครัวที่เดินทางบ่อย

ราคา: ประมาณ 22,000 บาท

6. Joie Litetrax 4 Flex Signature

จุดเด่น:

• โครงสร้างแข็งแรง รองรับการใช้งานระยะยาว
• ระบบโช้คอัพ ลดแรงกระแทก
• เบาะนั่งปรับเอนได้หลายระดับ

เหมาะสำหรับ:

• เด็กแรกเกิดถึง 4 ปี

ราคา: ประมาณ 7,900 บาท

7. Graco Modes Pramette Stroller

จุดเด่น:

• ใช้งานได้หลากหลายแบบ ทั้งนั่งและนอน
• ระบบเบรกแบบ One-Step เพื่อความปลอดภัย
• เหมาะสำหรับการใช้งานในทุกพื้นที่

เหมาะสำหรับ:

• เด็กแรกเกิดถึง 4 ปี

ราคา: ประมาณ 13,500 บาท

8. Maclaren Quest Arc

จุดเด่น:

• น้ำหนักเบาเพียง 5.5 กิโลกรัม
• พับเก็บง่ายและสะดวกต่อการพกพา
• ระบบกันกระแทก 4 ล้อ

เหมาะสำหรับ:

• เด็กแรกเกิดถึง 3 ปี

ราคา: ประมาณ 12,000 บาท

9. Quinny Zapp Flex Plus

จุดเด่น:

• ดีไซน์สวยงามและทันสมัย
• ระบบหมุนล้อที่คล่องตัว
• เบาะรองนั่งถอดทำความสะอาดได้ง่าย

เหมาะสำหรับ:

• เด็ก 6 เดือนถึง 3 ปี

ราคา: ประมาณ 15,000 บาท

10. Doona Infant Car Seat & Stroller

จุดเด่น:

• ระบบ 2-in-1 เป็นทั้งคาร์ซีทและรถเข็นเด็ก
• เหมาะสำหรับการเดินทางระยะสั้น
• ติดตั้งและใช้งานง่าย

เหมาะสำหรับ:

• เด็กแรกเกิดถึง 1 ปี

ราคา: ประมาณ 20,000 บาท

รถเข็นเด็กยี่ห้อไหนดี?

หากคุณกำลังมองหา รถเข็นเด็กยี่ห้อไหนดี ขอแนะนำให้เลือกตามความต้องการ เช่น

• หากต้องการน้ำหนักเบา: Aprica Magical Air Plus หรือ Pigeon Compact Stroller
• หากต้องการระบบความปลอดภัยสูง: Chicco Bravo Trio Travel System หรือ Graco Modes Pramette Stroller
• หากต้องการใช้งานหลากหลาย: Joie Litetrax 4 Flex Signature หรือ Babyzen YOYO2

คำแนะนำเพิ่มเติม

รถเข็นเด็กพับได้ เหมาะกับใคร?

รถเข็นเด็กพับได้ เหมาะสำหรับครอบครัวที่เดินทางบ่อยหรือมีพื้นที่จัดเก็บจำกัด เช่น อาศัยอยู่ในคอนโด หรือเดินทางด้วยรถยนต์บ่อยครั้ง

ความสำคัญของระบบล็อกล้อ

ระบบล็อกล้อช่วยเพิ่มความปลอดภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความลาดเอียง ควรเลือก รถเข็นเด็กที่มีระบบล็อกล้อ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

Designed by Freepik