ในยุคที่อุปกรณ์ดิจิทัลมีการใช้งานอย่างแพร่หลาย การเลือก สายชาร์จ Type C ที่ดีไม่เพียงแค่เรื่องความทนทาน แต่ยังต้องคำนึงถึงความเร็วในการชาร์จและการรองรับอุปกรณ์ต่างๆ ที่คุณใช้งาน วันนี้เราจะมาดู 10 อันดับ สายชาร์จ Type C ยอดนิยมในปี 2025 ที่คุ้มค่าคุ้มราคา

1. Anker PowerLine+ III USB-C to USB-C Cable

จุดเด่นหลักของรุ่นนี้:

• รองรับการชาร์จ Power Delivery สูงสุด 100W
• สายทำจากวัสดุไนลอนถักที่ทนทานต่อการดึงและการหักงอ
• ความยาวสาย 1.8 เมตร

ราคา: ประมาณ 499 บาท

เหมาะสำหรับ: เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการการชาร์จที่รวดเร็วและการใช้งานที่ยาวนาน โดยเฉพาะผู้ใช้ MacBook หรือ iPad Pro ที่รองรับการชาร์จ 100W

รายละเอียดเพิ่มเติม:

Anker PowerLine+ III เป็น สายชาร์จ Type C ที่ขึ้นชื่อในด้านความทนทานและประสิทธิภาพการทำงาน สายนี้รองรับ Power Delivery 100W ที่ช่วยให้การชาร์จของคุณรวดเร็ว และยังรองรับการถ่ายโอนข้อมูลที่ความเร็ว 480 Mbps ตัววัสดุไนลอนถักมีความแข็งแรงและช่วยป้องกันการขาดหักได้ดี

2. Aukey USB-C to USB-C Cable (CB-CMD4)

จุดเด่นหลักของรุ่นนี้:

• รองรับ Power Delivery 60W
• สายยาว 2 เมตร
• ความทนทานสูงด้วยวัสดุไนลอนถัก

ราคา: ประมาณ 399 บาท

เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการ สายชาร์จ สำหรับใช้งานในบ้านหรือที่ทำงานที่ต้องการความยาวเพิ่มขึ้น พร้อมความทนทานสูง

รายละเอียดเพิ่มเติม:

Aukey USB-C to USB-C Cable (CB-CMD4) รองรับ Power Delivery 60W ที่ช่วยให้การชาร์จสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้อย่างรวดเร็ว สายมีความยาวถึง 2 เมตร ซึ่งช่วยให้การเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้สะดวกแม้ในระยะไกล วัสดุไนลอนถักทำให้สายมีความทนทานสูงและทนทานต่อการเสื่อมสภาพจากการใช้งานบ่อย ๆ

3. Baseus USB-C to USB-C Cable (60W PD Fast Charging)

จุดเด่นหลักของรุ่นนี้:

• รองรับ Power Delivery (PD) 60W สำหรับการชาร์จเร็ว
• ความยาวสาย 1 เมตร เหมาะสำหรับการใช้งานในระยะใกล้
• วัสดุสายทำจากไนลอนถักที่ทนทานและยืดหยุ่น
• ความเร็วในการส่งข้อมูลสูงถึง 480Mbps
• รองรับการชาร์จสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่รองรับ USB-C

ราคา: ประมาณ 200 - 300 บาท

เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการ สายชาร์จ Type-C ที่รองรับการชาร์จเร็วและการถ่ายโอนข้อมูลที่รวดเร็วในระยะใกล้ เช่น ชาร์จสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตจาก Power Delivery 60W

รายละเอียดเพิ่มเติม: Baseus USB-C to USB-C Cable (60W PD Fast Charging) เป็น สายชาร์จ USB-C ที่มีคุณสมบัติเด่นในการรองรับ Power Delivery 60W, ซึ่งทำให้สามารถชาร์จอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย เช่น การชาร์จสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, หรือแม้กระทั่งบางรุ่นของโน้ตบุ๊คที่รองรับการชาร์จผ่าน USB-C

4. UGREEN USB-C to USB-C Cable

จุดเด่นหลักของรุ่นนี้:

• รองรับการชาร์จ Power Delivery สูงสุด 100W
• ความยาว 1.8 เมตร
• ทนทานและแข็งแรง

ราคา: ประมาณ 499 บาท

เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการ สายชาร์จ ที่ยาวและรองรับการชาร์จเร็วในทุกอุปกรณ์

รายละเอียดเพิ่มเติม:

UGREEN USB-C to USB-C Cable รองรับ Power Delivery 100W ช่วยให้การชาร์จของอุปกรณ์ต่างๆ รวดเร็ว และมีความยาวสายถึง 1.8 เมตร ทำให้ใช้งานสะดวกไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านหรือในออฟฟิศ และยังรองรับการถ่ายโอนข้อมูลที่ความเร็ว 480 Mbps

5. Samsung 25W USB-C to USB-C Cable

จุดเด่นหลักของรุ่นนี้:

• รองรับการชาร์จเร็ว Power Delivery 25W สำหรับอุปกรณ์ที่รองรับ
• ความยาวสาย 1.8 เมตร (6 ฟุต) เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่กว้าง เช่น บนโต๊ะทำงาน
• ทำจากวัสดุคุณภาพสูง เพิ่มความทนทานในการใช้งาน
• ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุดที่ 480 Mbps

ราคา: ประมาณ ฿450-600 ขึ้นอยู่กับแหล่งที่ซื้อ

เหมาะสำหรับ:

• ผู้ใช้ สมาร์ทโฟน Samsung ที่ต้องการสายชาร์จคุณภาพสูงจากแบรนด์
• ผู้ที่ต้องการสายยาว 1.8 เมตร เพื่อความสะดวกในการใช้งาน
• ผู้ที่ต้องการ การชาร์จเร็ว สำหรับอุปกรณ์ที่รองรับ PD 25W

รายละเอียดเพิ่มเติม: Samsung USB-C to USB-C Cable รุ่นนี้มีคุณสมบัติที่เหมาะสมสำหรับการชาร์จอุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จเร็ว เช่น สมาร์ทโฟน Samsung Galaxy หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่รองรับ Power Delivery 25W สามารถใช้งานได้ทั้งการชาร์จและถ่ายโอนข้อมูลที่ความเร็วสูง ด้วยวัสดุที่มีความทนทาน พร้อมทั้งความยาว 1.8 เมตร ทำให้สะดวกในการใช้งานในพื้นที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือที่ทำงาน

6. Choetech USB-C to USB-C Cable

จุดเด่นหลักของรุ่นนี้:

• รองรับการชาร์จ Power Delivery 100W ซึ่งเหมาะสำหรับการชาร์จอุปกรณ์ที่ต้องการพลังงานสูง เช่น MacBook Pro หรือ iPad Pro
• ความยาว 2 เมตร ทำให้สะดวกในการใช้งานระยะยาว
• สายผลิตจากวัสดุ ไนลอนถัก ซึ่งทนทานและยืดหยุ่น
• รองรับการถ่ายโอนข้อมูลที่ความเร็วสูง 480 Mbps

ราคา: ประมาณ ฿450-600 ขึ้นอยู่กับแหล่งที่ซื้อ

เหมาะสำหรับ:

• ผู้ที่ต้องการ สายชาร์จ Type C สำหรับการใช้งานทั้งในบ้านและที่ทำงาน
• ผู้ใช้อุปกรณ์ที่รองรับ Power Delivery 100W เช่น MacBook หรือ iPad Pro
• ผู้ที่มองหาสายชาร์จที่มีความทนทานและรองรับการถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว

รายละเอียดเพิ่มเติม: Choetech USB-C to USB-C Cable เป็นสายที่รองรับการชาร์จ Power Delivery 100W ซึ่งเหมาะสำหรับการชาร์จอุปกรณ์ที่ต้องการพลังงานสูง เช่น MacBook Pro หรือ iPad Pro โดยสายนี้มีความยาวถึง 2 เมตร จึงสะดวกในการใช้งานที่ระยะไกล สายผลิตจากวัสดุ ไนลอนถัก ที่ทนทานและยืดหยุ่น ทำให้สามารถทนต่อการใช้งานหนักในระยะยาวได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการขูดขีดหรือการขาดสาย สายนี้ยังรองรับการถ่ายโอนข้อมูลที่ความเร็วสูงถึง 480 Mbps ทำให้สามารถใช้งานทั้งในการชาร์จและการถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ​

7. Anker PowerLine II USB-C to USB-C Cable

จุดเด่นหลักของรุ่นนี้:

• รองรับการชาร์จ Power Delivery 60W
• มีเทคโนโลยีบิดหมุนได้ 360 องศา
• รับประกัน 18 เดือน

ราคา: ประมาณ 499 บาท

เหมาะสำหรับ: เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการ สายชาร์จ ที่ทนทานและสามารถชาร์จอุปกรณ์ได้เร็ว

รายละเอียดเพิ่มเติม:

Anker PowerLine II USB-C to USB-C Cable ออกแบบมาให้รองรับการชาร์จ Power Delivery 60W พร้อมความทนทานสูง สายมีความยืดหยุ่นในตัว 360 องศา และรับประกันยาวนานถึง 18 เดือน ช่วยให้มั่นใจในคุณภาพการใช้งานในระยะยาว

8. Belkin USB-C to USB-C Cable

จุดเด่นหลักของรุ่นนี้:

• รองรับ Power Delivery 60W
• วัสดุเคลือบทองคำที่ปลั๊กช่วยให้การเชื่อมต่อที่เสถียร
• สายยาว 1.8 เมตร

ราคา: ประมาณ 450 บาท

เหมาะสำหรับ: เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการ สายชาร์จ Type C ที่มีการเชื่อมต่อสัญญาณที่ดีและรองรับการชาร์จเร็ว

รายละเอียดเพิ่มเติม:

Belkin USB-C to USB-C Cable มีคุณสมบัติที่ช่วยให้การเชื่อมต่อมีความเสถียรด้วยปลั๊กทองคำ ตัวสายยาว 1.8 เมตร ช่วยให้การใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น วัสดุมีคุณภาพสูงช่วยให้การใช้งานในระยะยาวมั่นคงและปลอดภัย

9. Belkin BoostCharge USB-C to USB-C Cable (100W)

ราคา: ประมาณ 500-700 บาท

จุดเด่นหลักของรุ่นนี้:

• รองรับ Power Delivery 100W
• ความยาว 2 เมตร หรือ 3 เมตร
• วัสดุทนทาน ถักไนลอนและ TPE
• ความเร็วการถ่ายโอนข้อมูลสูงถึง 10Gbps

เหมาะสำหรับ:

เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการสายชาร์จคุณภาพสูงที่รองรับการชาร์จเร็วและการถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูง เช่น MacBook Pro, iPad Pro หรืออุปกรณ์ที่รองรับ USB-C และ Power Delivery สูงถึง 100W

รายละเอียดเพิ่มเติม:

Belkin BoostCharge USB-C to USB-C Cable (100W) เป็นสายชาร์จที่รองรับ Power Delivery 100W ซึ่งเหมาะสำหรับการชาร์จอุปกรณ์ที่ต้องการพลังงานสูง เช่น MacBook Pro หรือ iPad Pro ที่รองรับการชาร์จเร็วด้วยพอร์ต USB-C โดยสามารถใช้งานได้ทั้งการชาร์จและถ่ายโอนข้อมูลที่มีความเร็วสูงถึง 10Gbps

สายนี้มีความยาว 2 เมตร (หรือ 3 เมตร) ช่วยให้สะดวกในการใช้งานระยะไกล โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการขาดแคลนความยาวของสาย วัสดุของสายทำจากไนลอนและ TPE ซึ่งทำให้สายทนทานต่อการใช้งานระยะยาวและช่วยป้องกันการขาดหักหรือการเสียหายจากการดึงแรง นอกจากนี้สายชาร์จรุ่นนี้ยังได้รับการรับประกัน 2 ปีจาก Belkin ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในการผลิตอุปกรณ์เสริมที่มีคุณภาพสูง โดยการออกแบบที่แข็งแรงและปลอดภัยจึงมั่นใจได้ในเรื่องของความทนทานและความปลอดภัยในการใช้งาน

10. สายชาร์จ Type-C ZMI Cuktech CTC515N (ทนทาน)

ราคา: ประมาณ 390 บาท

• จุดเด่นหลักของรุ่นนี้:
• รองรับ Power Delivery สูงสุด 100W
• ความยาว 1.5 เมตร
• สายถักไนลอน ทนทานและป้องกันการขาดง่าย
• ชิป E-Marker ช่วยควบคุมความปลอดภัย

เหมาะสำหรับ:

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสายชาร์จ Type-C ที่รองรับการชาร์จเร็ว ใช้งานได้กับแล็ปท็อป สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตที่รองรับ USB Power Delivery พร้อมดีไซน์ที่ทนทานใช้งานระยะยาว

รายละเอียดเพิ่มเติม:

ZMI Cuktech CTC515N เป็นสายชาร์จ Type-C คุณภาพสูงที่มาพร้อมกับความสามารถในการรองรับการชาร์จแบบ Power Delivery 100W (20V/5A) เหมาะสำหรับการใช้งานกับแล็ปท็อปที่รองรับ USB-C เช่น MacBook Pro, Dell XPS และสมาร์ทโฟนที่ต้องการชาร์จเร็ว วัสดุของสายชาร์จทำจากไนลอนถักที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว รวมถึงป้องกันการบิดหรืองอที่อาจทำให้สายเสียหาย มีความยาว 1.5 เมตรซึ่งเหมาะสมสำหรับการใช้งานในหลายสถานการณ์ ที่โดดเด่นอีกประการคือชิป E-Marker ที่ฝังอยู่ในสาย ซึ่งช่วยควบคุมการส่งผ่านกระแสไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัย ทำให้สายชาร์จรุ่นนี้ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องของความเร็วและความปลอดภัย

สรุป

ทั้งหมดนี้คือ 10 อันดับสายชาร์จ USB Type-C ที่ได้รับความนิยมในปี 2025 ซึ่งรองรับ Power Delivery และการถ่ายโอนข้อมูลที่รวดเร็ว เหมาะสำหรับการใช้งานกับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือโน้ตบุ๊กที่รองรับ USB Type C การเลือกซื้อ สายชาร์จ ควรพิจารณาจากความยาวของสาย ความทนทาน และรองรับการชาร์จเร็วตามความต้องการของอุปกรณ์ที่ใช้

Designed by Freepik